บทสรุปของผู้บริหาร
ข้อมูลพื้นฐานของสถานศึกษา
โรงเรียนบ้านน้ำราบ ตั้งอยู่ เลขที่ 167 หมู่ 4 ตำบลบางสัก อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรัง เขต 2 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่เปิดจัดการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลปีที่ 1 ถึงระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีนักเรียนจำนวน 111 คน มีบุคลากรจำนวน 11 คน ประกอบด้วย ข้าราชการครูจำนวน 8 คน ครูอัตราจ้างของโรงเรียนจำนวน 2 คน เจ้าที่ธุรการจำนวน 1 คน
ผลการประเมินคุณภาพมาตรฐานเพื่อการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา
1. ระดับการศึกษาปฐมวัย
1.1 มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของเด็ก มีผลการประเมินอยู่ในระดับ ดีเลิศ
1.2 มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ มีผลการประเมินอยู่ในระดับ ดีเลิศ
1.3 มาตรฐานที่ 3 การจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นสำคัญ มีผลการประเมินอยู่ในระดับ ดีเลิศ
มาตรฐานที่ ๑ คุณภาพของเด็ก มีผลการประเมินอยู่ในระดับ : ดีเลิศ
1.กระบวนการพัฒนา
โรงเรียนบ้านน้ำได้จัดประสบการณ์การเรียนรู้ให้แก่เด็กตามแนวทางการจัดการเรียน การสอนของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ โดยใช้ทรัพยากรที่มีอยู่แล้วให้เกิดประโยชน์สูงสุด มีรูปแบบการจัดการเรียนสอนเป็น 3 รูปแบบ ได้แก่ On-Line On-demand และOn-hand ภายใต้การปฏิบัติตามมาตรการของศูนย์บริหารสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ของจังหวัดตรัง ครูผู้สอนจัดประสบการณ์การเรียนรู้ด้วยวิธีการ เทคนิค รูปแบบที่ทันสมัย น่าสนใจ ผ่านเครื่องมือสื่อเทคโนโลยีดิจิทัลต่าง ๆ โดยจะมีการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ผ่านช่องทาง Application ต่าง ๆ เช่น Line Facebook : Online Learning ครูจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ออกแบบกิจกรรมที่หลากหลาย มีกระบวนการพัฒนาผู้เรียนด้วยการจัดโครงการ กิจกรรมในการพัฒนาเด็กอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา เหมาะสมกับวัยและเป็นไปตามสภาพที่พึงประสงค์ สอดคล้องกับหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย และบรรลุตามเป้าหมายที่สถานศึกษากำหนด
2. ผลการพัฒนา
เด็กมีพัฒนาการด้านร่างกายเติบโตตามวัย มีน้าหนัก ส่วนสูง และสมรรถภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน มีทักษะการเคลื่อนไหวคล่องแคล่ว กล้ามเนื้อใหญ่ กล้ามเนื้อเล็กประสานสัมพันธ์กัน มีสุขนิสัยการดูแลรักษาสุขภาพอนามัยที่ดีและปฏิบัติจนเป็นนิสัยได้ ปฏิบัติตนในการหลีกเลี่ยงต่อสภาวะที่เสี่ยงต่ออุบัติเหตุ ภัย และสิ่งเสพติด มีพฤติกรรมร่าเริงแจ่มใส รู้จักยอมรับ ชื่นชม และพอใจในความสามารถ และผลงานของตนเองและผู้อื่น กล้าพูด กล้าแสดงออก เหมาะสมกับวัย รู้จักช่วยเหลือแบ่งปันผู้อื่นตามโอกาส ช่วยเหลือตนเองใน
3. จุดเด่น
เด็กมีพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา บรรลุตามเป้าหมายสถานศึกษา กำหนด มีการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ตามหลักสูตร มีโครงการกิจกรรมที่ส่งเสริมให้เด็กได้พัฒนาให้บรรลุเป้าหมาย ปรัชญา วิสัยทัศน์และจุดเน้นการศึกษาปฐมวัย มีการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมพัฒนาการแบบองค์รวมซึ่งเกิดจากการมีส่วนร่วมของครู ผู้บริหารและผู้ปกครองอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง
4. จุดที่ควรพัฒนา
1. ควรส่งเสริมให้เด็กดูแลรักษาสุขภาพอนามัยของตนเองและปฏิบัติจนเป็นนิสัยดูแลเด็กให้รู้จักการหลีกเลี่ยงสภาวะที่เสี่ยงต่อโรคโดยเฉพาะในปัจจุบันมีการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19
2. ควรส่งเสริมให้เด็กรู้จักการไหว้การยิ้มทักทายมีสัมมาคารวะกับผู้ใหญ่ การมีมารยาทในการพูด การรู้จักใช้คำพูดขอบคุณ ขอโทษ การใช้วาจาสุภาพเหมาะสมกับวัย
3. ครูพัฒนาเทคนิคการสอนที่เน้นให้ผู้เรียนมีความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์ คิดแก้ปัญหา คิดสร้างสรรค์ และส่งเสริมด้านกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ จัดการเรียนรู้ด้วยโครงงานบ้านวิทยาศาสตร์น้อยอย่างต่อเนื่อง
5. แนวทางการพัฒนาให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น
1. พัฒนาเกี่ยวกับการใฝ่เรียน ใฝ่รู้ สนใจเรียนรู้รอบตัว การซักถาม สำรวจ ทดลอง การสังเกต การพูดคุย การถ่ายทอดความคิด และทดลองวิธีการใหม่ ๆ ที่แตกต่าง
2. ส่งเสริมให้เด็กได้ใช้สื่อเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือในการเรียนรู้และแสวงหาความรู้ให้มากขึ้น และพัฒนาครูให้มีความรู้ความสามารถใช้สื่อเทคโนโลยีในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้กับเด็กให้มากกว่านี้
มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ มีผลการประเมินอยู่ในระดับ : ดีเลิศ
1. กระบวนการพัฒนา
โรงเรียนบ้านน้ำราบได้ดำเนินการบริหารและจัดการสถานศึกษาโดยเปิดโอกาสให้ผู้ปกครอง ชุมชน และท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาและพัฒนาคุณภาพการศึกษาระดับปฐมวัย มี การกำหนดเป้าหมาย วิสัยทัศน์ และพันธกิจของสถานศึกษาไว้อย่างชัดเจน มีการจัดทาหลักสูตรการศึกษาปฐมวัยที่ครอบคลุมพัฒนาการทั้ง 4 ด้าน ให้สอดคล้องกับบริบทของท้องถิ่น มีการวางแผน และจัดอัตรากาลังครูให้มีสัดส่วนที่เหมาะสมกับจานวนผู้เรียนและห้องเรียน ส่งเสริมให้ครูพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดทักษะและมีความเชี่ยวชาญด้านการจัดประสบการณ์ที่ส่งผลต่อคุณภาพเด็กเป็นรายบุคคล จัดให้มีชุมชน การเรียนรู้ทางวิชาชีพ เพื่อพัฒนาการเรียนการสอนปฐมวัย มีการจัดสภาพแวดล้อมที่สะอาด ปลอดภัย เอื้อต่อการเรียนรู้ พร้อมทั้งมีสื่อและเทคโนโลยีที่สนับสนุนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมให้เด็กเกิด การเรียนรู้
2. ผลการพัฒนา
โรงเรียนมีหลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัยที่ครอบคลุมพัฒนาการทั้ง 4 ด้าน สอดคล้องกับบริบทท้องถิ่น มีครูเพียงพอต่อชั้นเรียน ครูมีทักษะและความเชี่ยวชาญด้านการจัดประสบการณ์ มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันของครูเครือข่ายปฐมวัย เพื่อพัฒนาการจัดการเรียนรู้ มีสภาพแวดล้อมภายในและภายนอกห้องเรียนที่สะอาด ปลอดภัย และเอื้อต่อการเรียนรู้ มีสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศและสื่อการเรียนรู้เพื่อสนับสนุนการจัดประสบการณ์ มีระบบบริหารคุณภาพที่เปิดโอกาสให้ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมีส่วนร่วม
3. จุดเด่น
สถานศึกษามีหลักสูตรครอบคลุมพัฒนาการทั้ง ๔ ด้านจัดกิจกรรมให้กับเด็กได้เรียนรู้ผ่านการเล่นและลงมือปฏิบัติจริงการจัดการเรียนรู้ตอบสนองความต้องการ และความแตกต่างของเด็ก ให้เด็กได้เรียนรู้อย่างมีความสุข มีครูจบการศึกษาปฐมวัยและครูที่ผ่านการอบรมด้านการศึกษาปฐมวัยครบชั้น ทำให้การจัดการศึกษาปฐมวัยเป็นไปในทิศทางเดียวกัน มีการส่งเสริมพัฒนาความรู้ ความสามารถด้านวิชาชีพแก่ครู และบุคลากรอย่างต่อเนื่อง มีสื่อ เทคโนโลยีสารสนเทศ วัสดุอุปกรณ์เพื่อสนับสนุนการจัดประสบการณ์ การเรียนรู้ และมีการเปิดช่องทางการสื่อสารที่หลากหลายให้ผู้ปกครองได้มีส่วนร่วมในการเสนอความคิดเห็นในการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาผู้เรียน
4. จุดควรพัฒนา
1. ใช้สื่อและเทคโนโลยีการสอนที่หลากหลายสอดคล้องกับการจัดประสบการณ์และพัฒนาการของเด็ก
2. จัดกิจกรรม PLC ในสายชั้นอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง
5. แนวทางการพัฒนาให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น
1. สร้างเครือข่ายความร่วมมือของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดการศึกษาของโรงเรียนให้มีความเข้มแข็ง
มีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อผลการจัดการศึกษา และการขับเคลื่อนคุณภาพการจัดการศึกษา
2. ส่งเสริมและพัฒนาครูด้านการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้กิจกรรมแบบ Active Learningกิจกรรมโครงงาน กิจกรรมสะเต็มศึกษา ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน อย่างต่อเนื่อง
มาตรฐานที่ 3 การจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นสำคัญ มีผลการประเมินอยู่ในระดับ : ดีเลิศ
1. กระบวนการพัฒนา
โรงเรียนบ้านน้ำราบดำเนินการส่งเสริมให้ครูระดับปฐมวัยมุ่งพัฒนาเด็กปฐมวัย ให้มีพัฒนา การครบทั้ง 4 ด้าน คือด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา โดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญอย่างสมดุล และเต็มศักยภาพ โดยความร่วมมือของพ่อแม่และครอบครัว ชุมชนและผู้เกี่ยวข้อง จัดทำแผนการจัดประสบการณ์จากการวิเคราะห์มาตรฐานคุณลักษณะที่พึงประสงค์ในหลักสูตรสถานศึกษา ออกแบบและบูรณาการการจัดการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับผู้เรียน ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-9) โดยผ่านกิจกรรมหลัก 6 กิจกรรม สร้างโอกาสให้เด็กได้รับประสบการณ์ตรงเล่นและปฏิบัติอย่างมีความสุข ให้เด็กมีโอกาสเลือกทำกิจกรรมอย่างอิสระตามความต้องการความสนใจความสามารถตอบสนองต่อวิธีการเรียนรู้ของเด็กเป็นรายบุคคลหลากหลายรูปแบบ มีการใช้สื่อและเทคโนโลยีมาบูรณาการการสอนตามหน่วยการเรียนรู้ ประเมินพัฒนาการเด็กตามสภาพได้จริงด้วยวิธีการที่หลากหลาย โดยผู้ปกครอง และผู้เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมและนำผลการประเมินพัฒนาการเด็กไปปรับปรุงการจัดประสบการณ์และพัฒนาเด็กให้มีพัฒนาการสมวัย
2. ผลการพัฒนา
ครูจัดประสบการณ์ให้เด็กมีพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา อย่างสมดุลเต็มศักยภาพ เด็กได้รับประสบการณ์ตรงเล่นและปฏิบัติกิจกรรม เรียนรู้ลงมือปฏิบัติผ่านประสาทสัมผัสทั้งห้า สามารถสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองอย่างมีความสุข ครูสามารถจัดบรรยากาศที่ส่งเสริมความสนใจให้แก่ผู้เรียน และเอื้อต่อการเรียนรู้ของเด็ก มีการใช้สื่อและเทคโนโลยีที่เหมาะสมให้เด็ก ครูมีการประเมินพัฒนาการเด็ก โดยวิเคราะห์ผู้เรียนเป็นรายบุคคล จากกิจกรรม และกิจวัตรประจำวันด้วยเครื่องมือการวัด และวิธีการที่หลากหลาย ครอบคลุม เหมาะสมกับวัยเด็ก ส่งผลให้เด็กปฐมวัยมีพัฒนาการที่เหมาะสมตามวัย
3. จุดเด่น
จัดประสบการณ์ที่ส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการทุกด้านอย่างสมดุลศักยภาพ โดย ครูมีการวิเคราะห์เป็นรายบุคคล มีการจัดทาแผนประสบการณ์จากการวิเคราะห์มาตรฐานคุณลักษณะที่พึงประสงค์ที่ส่งเสริมพัฒนาการทั้ง 4 ด้าน คือ ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา สร้างโอกาสให้เด็กได้รับประสบการณ์ตรง เล่นและปฏิบัติอย่างมีความสุข เด็กมีโอกาสเลือกทำกิจกรรมอย่างอิสระ ตามความต้องการ ความสนใจ และความสามารถ ซึ่งกิจกรรมที่หลากหลายสามารถสนองตอบการเรียนรู้ของเด็กรายบุคคล เด็กได้เล่นเรียนรู้ ลงมือและสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง มีการประเมินพัฒนาการเด็กตามสภาพจริง และนำผลการประเมินพัฒนาการเด็กไปปรับปรุง แก้ปัญหา และส่งเสริมพัฒนาการเด็ก
4.จุดควรพัฒนา
1. ครูควรได้รับการอบรมการพัฒนาศักยภาพของด้านการผลิตสื่อการสอน เพื่อพัฒนาคุณภาพด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อเพิ่มประสบการณ์ให้ครูจัดประสบการณ์ให้เด็กมีพัฒนาการทุกด้านอย่างสมดุลเต็มศักยภาพ มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น มีการติดตามและประเมินผลพัฒนาการเด็กอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง
2. ครูจัดกิจกรรมให้เด็กแสวงหาความรู้จากสื่อเทคโนโลยีด้วยตนเองอย่างต่อเนื่อง
3. การนำผลสะท้อนการจัดการเรียนการสอนของครู มาเป็นประเด็นในการจัดทำวิจัยในชั้นเรียนเพื่อพัฒนาผู้เรียน
5. แนวทางการพัฒนาให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น
1. ส่งเสริม และพัฒนาการใช้สื่อเทคโนโลยี และแหล่งเรียนรู้ให้มากกว่าเดิม
2. เชิญวิทยากรท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมเพื่อสร้างโอกาสให้เด็กได้รับประสบการณ์ตรง เล่นและปฏิบัติกิจกรรม เรียนรู้ ลงมือทำ และสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองอย่างมีความสุข
2. ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน
2.1 มาตรฐานที่ 1 ด้านคุณภาพของผู้เรียน มีผลการประเมินอยู่ในระดับ ดีเลิศ
2.2 มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ มีผลการประเมินอยู่ในระดับ ดีเลิศ
2.3 มาตรฐานที่ 3 กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ มีผลการประเมินอยู่ในระดับ ดีเลิศ
มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของผู้เรียน มีผลการประเมินอยู่ในระดับ : ดีเลิศ
1. กระบวนการพัฒนา
โรงเรียนบ้านน้ำได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพของผู้เรียนโดยการจัดการศึกษาด้วยวิธีการที่หลากหลายตามแนวทางการจัดการเรียน การสอนของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ โดยใช้ทรัพยากรที่มีอยู่แล้วให้เกิดประโยชน์สูงสุด มีรูปแบบการจัดการเรียนสอนเป็น 3 รูปแบบ ได้แก่ On-Line On-demand และOn-hand ภายใต้การปฏิบัติตามมาตรการของศูนย์บริหารสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ของจังหวัดตรัง ครูผู้สอนจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยวิธีการ เทคนิค รูปแบบที่ทันสมัย น่าสนใจ ผ่านเครื่องมือสื่อเทคโนโลยีดิจิทัลต่าง ๆ โดยจะมีการจัดการเรียนรู้ผ่านช่องทาง Application ต่าง ๆ เช่น Line Facebook : Online Learning โดยให้ครูผู้สอนจัดการเรียนรู้โดยยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้เป็นไปตามศักยภาพ ตามมาตรฐานและตัวชี้วัดของหลักสูตร และการใช้เทคนิควิธีการสอนให้ตรงตามศักยภาพของผู้เรียน มีการใช้สื่อเทคโนโลยีมาใช้ในการจัดการเรียนการสอนอยู่เสมอ
2. ผลการพัฒนา
ผลการประเมินผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการ ผู้เรียนสามารถอ่านออก เขียนได้ สื่อสารและคิดคำนวณได้ตามมาตรฐาน การอ่านเขียนในแต่ละระดับชั้น สามารถเขียนสื่อสารได้ รู้จักการวางแผน และสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ดีตามหลักประชาธิปไตย กล้าแสดงออก กล้าแสดงความคิดเห็น สามารถวิเคราะห์ จำแนก และวิพากษ์วิจารณ์ได้อย่างสร้างสรรค์
3. จุดเด่น
ผู้เรียนอ่านหนังสือออกและอ่านคล่อง รวมทั้งสามารถเขียนเพื่อการสื่อสารได้ทุกคน สามารถใช้เทคโนโลยีในการแสวงหาความรู้ได้ด้วยตนเอง ส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนอยู่ในระดับสูงกว่ามาตรฐานที่กำหนด มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง มีสมรรถภาพทางกายและน้ำหนักส่วนสูง ตามเกณฑ์ของโรงเรียน มีความสามารถด้านการแสดงออกมีความมั่นใจในตนเองมากขึ้น ได้รับการสนับสนุนให้ร่วมกิจกรรม และพิธีต่าง ๆ ทั้งภายในและนอกสถานศึกษา ผู้เรียนทุกคนมีคุณธรรม จริยธรรม และมีมารยาทด้านการไหว้ จนเป็นเอกลักษณ์ของสถานศึกษา และเป็นที่ยอมรับของชุมชน ผู้เรียนห่างไกลจากสิ่งเสพติดให้โทษต่าง ๆ รวมทั้งสามารถหลีกเลี่ยงจากภาวะที่เสี่ยงต่อความรุนแรง โรคภัยอุบัติเหตุ และปัญหาทางเพศ
4. จุดควรพัฒนา
เร่งพัฒนาผู้เรียนด้านการนำเสนอ การอภิปรายและแลกเปลี่ยนเรียนรู้อย่างสมเหตุสมผลและต้องพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาตามสถานการณ์ได้อย่างเหมาะสม โดยมีโครงการหรือกิจกรรมที่สามารถพัฒนาผู้เรียนตามศักยภาพอย่างแท้จริง ส่งเสริมให้ผู้เรียนจัดทำโครงงานเชิงบูรณาการด้านคุณธรรม ด้านงานอาชีพ เน้นให้ผู้เรียนคิดเองทำเอง โดยใช้สื่อ แหล่งเรียนรู้ การศึกษาค้นคว้า ออกแบบ เพื่อพัฒนาสมรรถนะที่จำเป็นตามหลักสูตร
5. แนวทางการพัฒนาให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น
โรงเรียนบ้านน้ำราบมีแผนการปลูกฝังนิสัยรักการอ่าน และจัดหาแหล่งเรียนรู้ที่ทันสมัยให้นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง มีการนำสื่อเทคโนโลยีมาใช้ในการสอนของครูมากขึ้น ศึกษาเทคนิคการสอนในหลาย ๆ รูปแบบ และนำมาใช้อย่างหลากหลายเพื่อไม่ให้นักเรียนเกิดความเบื่อ และให้ผู้เรียนได้เรียนจากแหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่นของตนเองและภูมิปัญญาท้องถิ่นมากขึ้น
มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ มีผลการประเมินอยู่ในระดับ : ดีเลิศ
1.กระบวนการพัฒนา
โรงเรียนบ้านน้ำราบจัดกระบวนการบริหารและการจัดการเพื่อพัฒนาคุณภาพของผู้เรียน ได้มีการปรับแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา และแผนปฏิบัติการประจำปีให้มีความสอดคล้องกับสภาพปัญหา และความต้องการพัฒนาด้านต่าง ๆ ของสถานศึกษา ร่วมทั้งให้มีความสอดคล้องกับนโยบายการปฏิรูปการศึกษาของประเทศ จัดสรรงบประมาณ ทรัพยากรต่าง ๆ และสรุปผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องมีการบริหารอัตรากำลัง ทรัพยากรทางการศึกษา และระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน มีระบบการนิเทศภายใน การนำข้อมูลมาใช้ในการพัฒนา บุคลากรและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมีส่วนร่วม การวางแผน ปรับปรุง และพัฒนา และร่วมรับผิดชอบต่อผลการจัดการศึกษา
2. ผลการพัฒนา
โรงเรียนบ้านบ้านน้ำราบ มีแผนพัฒนาการศึกษา แผนปฏิบัติการประจำปี ที่เป็นไปได้ในการ ปฏิบัติตามกำหนดเป้าหมายมาตรฐานการศึกษา กลยุทธ์ นโยบายและจุดเน้น วิสัยทัศน์และพันธกิจ ที่ชัดเจน สอดคล้องกับบริบทของสถานศึกษา ความต้องการของชุมชน และนโยบายของรัฐ มีระบบบริหารจัดการคุณภาพของสถานศึกษาที่ชัดเจนส่งผลต่อ คุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา โดยคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนบ้านน้ำราบ ได้พิจารณาแผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ 2564 มีผลจากการดำเนินงานพัฒนาวิชาการที่เน้นคุณภาพผู้เรียนรอบด้านตามหลักสูตรสถานศึกษาและทุกกลุ่มเป้าหมาย มีการพัฒนาครู และบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพ และจัดให้มีชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพมาใช้ในการพัฒนางานและการเรียนรู้ มีสภาพแวดล้อมทางกายภาพที่ดีถูกสุขลักษณะ และเป็นไปตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของ Covid-19 มีระบบฐานข้อมูลและสารสนเทศที่มีคุณภาพเพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการ
3. จุดเด่น
โรงเรียนบ้านน้ำราบมีเป้าหมาย วิสัยทัศน์ พันธกิจ ที่กำหนดไว้ชัดเจน สอดคล้องกับบริบทของสถานศึกษาตามความต้องการของชุมชน มีวัตถุประสงค์ของแผนการจัดการศึกษาของชาติ นโยบายของรัฐบาลและต้นสังกัด ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคม พัฒนางานวิชาการเน้นคุณภาพผู้เรียนรอบด้าน ตามหลักสูตรสถานศึกษา และส่งเสริมสนับสนุนพัฒนาครูและบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญตรงตามความต้องการ ให้เป็นชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพมาใช้ในการพัฒนางานและการเรียนรู้ของผู้เรียน มีการดำเนินการนิเทศ กำกับ ติดตาม ประเมินผล การดำเนินงานและจัดทำรายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา
4.จุดควรพัฒนา
การเปิดโอกาสให้ผู้ปกครองได้มีส่วนร่วมในการเสนอความคิดเห็นในการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาผู้เรียน สร้างเครือข่ายความร่วมมือของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดการศึกษาของโรงเรียนให้มีความเข้มแข็ง และมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อผลการจัดการศึกษา ในการขับเคลื่อนคุณภาพการจัดการศึกษา มีการจัดกิจกรรมในด้านการพัฒนาวิธีการเรียนรู้ในชุมชนท้องถิ่นเพิ่มมากขึ้น และควรมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างครู ผู้ปกครอง นักเรียนและชุมชนเพื่อพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนอยู่อย่างสม่ำเสมอ
5. แนวทางการพัฒนาให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น
โรงเรียนบ้านน้ำราบมีแผนการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพและความเชี่ยวชาญในการใช้เทคโนโลยีมากยิ่งขึ้น โดยการแลกเปลี่ยนเรียนรู้งานร่วมกัน มีแผนการจัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคมที่เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพโดยเฉพาะภายในห้องเรียน
มาตรฐานที่ 3 กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ มีผลการประเมินอยู่ในระดับ : ดีเลิศ
1. กระบวนการพัฒนา
โรงเรียนบ้านน้ำราบได้ดำเนินการส่งเสริมให้ครูจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ มีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามมาตรฐานการเรียนรู้ตัวชี้วัดของหลักสูตรสถานศึกษาที่เน้นให้ ผู้เรียนได้เรียนรู้โดยผ่านกระบวนการคิดและปฏิบัติจริง ครูมีแผนการจัดการเรียนรู้ที่สามารถนำไปจัดกิจกรรมได้จริง มีรูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ผู้เรียนได้รับการฝึกทักษะทางวิชาการ ทักษะความสามารถพิเศษต่างๆตามความถนัด กล้าแสดงออก แสดงความคิดเห็น สรุปองค์ความรู้นำเสนอผลงาน และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิต สนับสนุนให้ครูทุกกลุ่มสาระมีการใช้สื่อ เทคโนโลยีสารสนเทศ และแหล่งเรียนรู้ รวมทั้ง ภูมิปัญญาท้องถิ่นมาใช้ในการจัดการเรียนรู้โดยสร้างโอกาสให้ผู้เรียนได้แสวงหาความรู้ด้วยตนเองจากสื่อที่ หลากหลาย มีการจัดให้มีชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ PLC จัดการเรียนการสอนที่เชื่อมโยงบริบทของชุมชน และมีการประเมินผู้เรียนอย่างหลากหลายตามกิจกรรมที่กำหนด
2.ผลการพัฒนา
ครูมีความรู้และความมุ่งมั่นตั้งใจ เพื่อการจัดการเรียนการสอน สามารถนาความรู้ที่ได้รับจากการพัฒนาตนเองมาใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนอย่างหลากหลายและมีความสอดคล้องกับหลักสูตรสถานศึกษา เข้าใจปัญหาและความต้องการของผู้เรียน ส่งผลให้การจัดการเรียนการสอนของครูครอบคลุมทักษะกระบวนการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. จุดเด่น
โรงเรียนบ้านน้ำราบส่งเสริมให้ครูจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ โดยดำเนินการ ประเมินและปรับปรุงหลักสูตรสถานศึกษา ครูผู้สอนจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ และพัฒนาตนเองอยู่เสมอ มีการจัดบรรยากาศสภาพแวดล้อมห้องเรียนให้เหมาะสมแก่การเรียนรู้ มีการตรวจสอบและประเมินความรู้ความเข้าใจของผู้เรียนวิธีการที่หลากหลายอย่างเป็นระบบ และนำผลมาพัฒนาผู้เรียน
4. จุดควรพัฒนา
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (Covid-19) ทำให้การจัดการเรียนรู้ยังไม่ส่งเสริมกระบวนการคิดและการลงมือปฏิบัติจริงเท่าที่ควร โรงเรียนบ้านน้ำราบจึงควรส่งเสริมให้ครูวิเคราะห์ผู้เรียน เพื่อวางแผนออกแบบการเรียนรู้และส่งเสริมศักยภาพนักเรียนให้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมาย พร้อมทั้งข้อตกลงการช่วยเหลืออย่างเป็นระบบ ชัดเจนและเป็นรูปธรรม ควรมีการนาภูมิปัญญาท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้อย่างหลากหลายทุกระดับชั้นให้มากขึ้น โดยเน้นการเรียนการสอนแบบ Active Learning เพื่อให้ผู้เรียนฝึกปฏิบัติและพัฒนากระบวนการคิดของตนเอง
5. แนวทางการพัฒนาให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น
โรงเรียนบ้านน้ำราบมีแผนการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน โดยเน้นฝึกความรับผิดชอบ ความเป็นระเบียบเรียบร้อยให้มีความสอดคล้องกับคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของสถานศึกษา สนับสนุนงบประมาณเพื่อการผลิตและการใช้สื่อ และพัฒนาแหล่งเรียนรู้ที่เอื้อต่อการเรียนรู้ภายในโรงเรียนให้พอเพียงต่อความต้องการของผู้เรียนและผู้สอนให้มากยิ่งขึ้น
|